มาดูกันว่า ปลูกผมศิริราชในยุค 4.0 ไปถึงไหนกันแล้ว
ในยุคโลกวิวัฒน์นี้ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่าเทคโนโลยีจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนเราในทุก ๆ ด้าน ไม่เพียงแค่คอมพิวเตอร์หรือเครื่องจักรตามอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ตอนนี้โลกยังไปไกลกว่านั้นเพราะทางการแพทย์ก็ได้นำหุ่นยนต์เข้ามาเป็นหนึ่งในทีมแพทย์ที่สามารถช่วยรักษาอาหารเจ็บป่วยได้
แม้กระทั่งปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เรื่องผมบางผมร่วง ตอนนี้เทคโนโลยีก็ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญเหมือนกัน โดยเฉพาะใครหลายๆ คนที่อยากจะปลูกผมศิริราช เพราะตอนนี้ทางโรงพยาบาลศิริราชได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ปัญหาผมบางผมร่วงซึ่งก็คือเจ้าหุ่นยนต์ปลูกผม
ผศ.นพ.รัฐพล ตวงทอง หัวหน้าสาขาโรคเส้นผมและการผ่าตัดปลูกถ่ายเส้นผม ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปิดเผยว่า ศิริราชพยาบาลได้เปิดตัวหุ่นยนต์ปลูกถ่ายเส้นผมอัตโนมัติ 4 มิติ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดจากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อนำมาใช้ในการเรียนการสอนแก่นักศึกษาแพทย์ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีแพทย์เฉพาะทางสาขาปลูกถ่ายเส้นผมจำนวนน้อย โรงพยาบาลศิริราชสามารถผลิตบุคลากรแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผมได้เพียงปีละ 1 คนเท่านั้น การนำนวัตกรรม ใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการเรียนการสอนจะเพิ่มความเชี่ยวชาญให้กับแพทย์ และคาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้าจะผลิตบุคลากรแพทย์เฉพาะทางได้ปีละ 2 คน ผศ.นพ.รัฐพลกล่าวว่า การทำงานของหุ่นยนต์ปลูกถ่ายเส้นผมอัตโนมัติ 4 มิตินั้น ทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยจะทำการเจาะกอผมที่มีคุณภาพบริเวณท้ายทอยลึกลงไปในระดับรากผม แล้วย้ายไปปลูกในบริเวณที่มีปัญหาผมบาง การปลูก ผมด้วยวิธีนี้จะลดเวลาการรักษาได้มากกว่าเดิมถึง 3 เท่า อัตราการเจริญเติบโตของรากผมที่ปลูกใหม่มีมากถึง 90% เส้นผมหลังการรักษาจะดูเป็นธรรมชาติ แข็งแรงมากกว่าการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ นอกจากนี้หุ่นยนต์ยังช่วยลดการตัดขาดของเส้นผมให้เหลือเพียง 2-3% เมื่อเทียบกับการปลูกถ่ายด้วยวิธีอื่น ซึ่งนอกจากใช้ในการเรียนการสอนแล้ว ยังเตรียมเปิดให้บริการปลูกถ่ายเส้นผมให้กับประชาชนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมอีกด้วย โดยสอบถามได้ที่ภาควิชาโทร. 0-2419-7000 ต่อ 4332-3.
นอกจากนั้นโรงพยาบาลศิริราชยังคงมีการปลูกผมแบบใหม่แบบไร้แผลเป็นสำหรับใครที่อยากปลูกผมศิริราช
ซึ่งการปลูกผมศิริราชนั้นมีหลายวิธีให้เลือกและราคายังไม่แพงเหมือนโรงพยาบาลอื่นๆ วิธีใหม่ที่ทางโรงพยาบาลคิดค้นขึ้น เรียกว่า “การปลูกผมไร้แผลเป็น”(SFET)ทำให้ลดแผลเป็นจากการผ่าตัดบริเวณท้ายทอย โดยใช้เครื่องมือพิเศษที่มีหัวเจาะทำจากโลหะไทเทเนียมเพื่อทำการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณท้ายทอยมาปลูกบริเวณที่มีศีรษะล้าน ซึ่งหลังการผ่าตัด จะมีแผลขนาดเล็กมากจนแทบมองไม่เห็น ประมาณจุดละ 1 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งแผลจะหายเองโดยไม่ต้องเย็บแต่อย่างใด
แม้วิทยาการทางการแพทย์จะก้าวหน้าจนรักษาอาการผมบาง ศีรษะล้านได้ แต่คงไม่มีใครอยากสูญเสียผมก่อนวัยอันควรแน่ การป้องกันจึงยังเป็นหัวใจที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง กินอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่
