เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการรักษาผมหงอกถาวรในประเทศญี่ปุ่น
การแพทย์ในปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปมาก คุณก็อาจจะสงสัยว่าแล้วตอนนี้การแพทย์สามารถรักษาผมหงอกถาวรได้หรือไม่? วันนี้ “หัวล้านได้หวี” จะมาแนะนำการรักษาผมหงอกในโรงพยาบาลของประเทศญี่ปุ่นให้คุณได้รู้กัน
โดยทั่วไปเมื่อคนเราอายุประมาณ 30 ปีก็จะมีความกังวลเกี่ยวกับผมหงอก เพราะผมหงอกเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าคุณเริ่มจะแก่แล้ว หลายคนจึงหาทางทีจะปกปิดมันหรือต้องการที่จะรักษาผมหงอกถาวรไปเลย
การรักษาผมหงอกในคนที่มีอายุ
ตอนนี้ยังไม่มีวิธีหรือยาตัวใดที่สามารถรักษาผมงอกถาวรในคนที่มีอายุมากได้ ดังนั้นเมื่อต้องการรับการรักษาจริง ๆ สิ่งเดียวที่ทำได้คือการตรวจสภาพหนังศีรษะ รับคำปรึกษาหรือคำแนะนำเกี่ยวการดูแลตนเองเท่านั้น
แต่จริงอยู่ที่ในปัจจุบันนั้นการแพทย์ยังไม่สามารถหาวิธีหรือยาที่สามารถรักษาผมหงอกถาวร แต่สำหรับผมหงอกในบางกรณีก็สามารถรักษาได้ในโรงพยาบาล
แล้วสำหรับรักษาผมหงอกในโรงพยาบาลมีวิธีอย่างไร ตรวจอะไรบ้าง คนไข้ต้องรับการรักษาอย่างไร มาดูกัน
การรักษาผมหงอกถาวรในโรงพยาบาล
การรักษาผมหงอกถาวรเพียงอย่างเดียวนั้นค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เพราะผมหงอกไม่ถือเป็นอาการป่วยจึงทำให้ไม่ครอบคลุมอยู่ในประกันสุขภาพแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น (ประกันตัวนี้จะช่วยคนไข้ออกค่าใช้จ่ายรักษาเพียง 30% จากทั้งหมด) ดังนั้นทางโรงพยาบาลอาจจะปฏิเสธการรับรักษา
แต่ถ้าหากในผู้ป่วยที่มีโรคต่าง ๆ แล้วโรคนั้นส่งผลประทบให้คนไข้เกิดผมหงอกก็จะมีการรักษาอาการผมหงอกนั้นด้วยเช่นเดียวกัน และในกรณีนี้ก็จะครอบคลุมอยู่ในอาการป่วยทำให้สามารถใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพแห่งชาติได้
โรคที่ส่งผลกระทบให้เกิดผมหงอก
- โรคด่างขาว
โรคนี้ไม่เพียงแต่ผมของคุณจะมีสีขาวแล้วแต่ร่างกายของผู้ป่วยก็จะมีด่างเป็นสีขาว ๆ เช่นกัน โดยโรคนี้จะถูกจัดเป็นโรคทางผิวหนังชนิดหนึ่ง
- โรคผมร่วงเป็นหย่อม ๆ
โรคนี้เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเซลล์รากผม อาการของโรคนี้คือ ผมจะร่วงเป็นหย่อม ๆ มีลักษะเป็นวงกลม และเส้นผมจะร่วงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้อาจจะไม่ได้เป็นแค่ที่หนังศีรษะแต่อาจจะเป็นทั่วทั้งร่างกายเลยก็เป็นได้
โรคนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผมหงอกโดยตรง แต่เมื่อผมบริเวณที่ร่วง งอกขึ้นมาใหม่ก็อาจจะทำให้ผมตรงนั้นเป็นผมหงอกก็ได้
- โรคตาอักเสบ (Vogt-Koyanagi-Harada (VKH) Syndrome)
โรคนี้มักจะเกิดกับคนที่อายุ 30 – 50 ปี โดยเมื่อป่วยเป็นโรคนี้ ก็มีโอกาสที่สารเมลานินจะทำลายตัวเองและส่งผลให้ทั้งสีผิวและเส้นผมกลายเป็นสีขาว
- การขาดวิตามัน B12
เมื่อเราขาดวิตามินบี 12 เป็นเวลานานก็อาจจะทำให้เกิดอาการหายใจเร็ว ขึ้ลืม รู้สึกอ่อนเปลี้ย ผิวซีด เหงือกเลือดออก เป็นต้น และก็มีอากาศทำให้เกิดผมหงอกอีกด้วย
- ภาวะย่อยอาหาร/การดูดซึมของร่างกายผิดปกติ
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะมีอาการน้ำหนักลงเร็ว เลือดน้อย ท้องเสียง่าย ผมหงอก เป็นต้น เมื่อพบว่าป่วยเป็นโรคนี้ก็จะสามารถรักษาอาการผมหงอกได้เช่นกัน
- โรคระบบต่อมไร้ท่อ
หากต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติก็จะส่งผลให้การทำงานของอวัยวะภายในร่างกายทำงานผิดปกติ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องส่งผลให้การทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในเส้นผมทำงานผิดปกติ ก่อให้เกิดเป็นผมหงอกได้นั่นเอง
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าที่ประเทศญี่ปุ่นสามารถรักษาผมหงอกได้ ถ้าหากรักษาอาการป่วยของโรคข้างต้นได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะสามารถนับเป็นการรักษาผมหงอกถาวรได้หรือเปล่า อยากรู้เหมือนกันนะว่าที่ประเทศไทยของเราสามารถรักษาผมหงอกถาวรได้หรือไม่ ถ้ามีโอกาสไว้เราจะไปค้นหาข้อมูลมาให้คุณอ่านกันแน่นอนจ้า