เทคนิคซ่อนหัวล้าน7แบบที่คุณอาจไม่เคยรู้
เมื่อคุณตื่นขึ้นมาพบกับปัญหาเดิมๆทุกเช้าว่า วันนี้เราจะทำอย่างไรกับผมอันน้อยนิดบนหัวของเรา จะออกไปไหนหรือจะถ่ายรูปแต่ละที ต้องมานั่งคอยส่องกระจกและบ่นกับตัวเอง ทำไมผมเราถึงน้อยยิ่งนัก นั่งเครียดอยู่คนเดียวหลายชั่วโมงก็หาทางแก้ไม่ได้ วันนี้เราจะมาหาทางออกกันกับปัญหานี้ โดยมี 7 เทคนิคที่เหมาะกับการซ่อนหัวล้าน7แบบ มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
7 เทคนิคง่ายๆ ที่ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาอีกต่อไป
1.ปีกนกนางนวล (gull wing)
ภาพจาก https://ameblo.jp/rupa-pastel/entry-12417966649.html
วิธีนี้เป็นวิธีง่ายๆและไม่ต้องเสียเวลาอะไรเลย แต่คุณต้องเสียเวลาไว้ผมให้ยาวซะหน่อยนะ ถึงจะทำตามเทคนิคนี้ได้ นั้นคือการไว้ผมให้ยาวลงมาประบ่าจากนั้นปล่อยตรง ไม่ซอยสั้นและแสกผมตามถนัด จากนั้นจัดทรงให้ผมทั้งสองฝั่งปรกลงปิดหน้าผากทั้งซ้ายและขวา วิธีนี้จะทำให้ดูเท่ๆคูลๆ แบบ Rock star ไปเลย และยังสามารถปกปิดหน้าผากให้ดูเล็กและแคบลงด้วยเหมาะสำหรับใครที่มีผมบริเวณหน้าผากค่อนข้างน้อยแต่พื้นที่หน้าผากกว้างและใหญ่
2. คลื่นทะเล (big wave)
ภาพจาก surfline
วิธีนี้เหมาะกับคนที่มีหัวล้านตั้งแต่ด้านหน้าผากขึ้นมา อาจคล้ายกับเทคนิคในข้อ 1 แต่ความยาวของผมนั้นไม่ต้องยาวมากขึ้นอยู่กับพื้นที่บริเวณหน้าผากของคุณว่ากว้างแค่ไหน ก่อนอื่นเลยอยากให้ทุกคนนึกถึงรูปทรงของคลื่นตามชายหาด ใช่เลยวิธีนี้ก็คือการเอาผมที่อยู่ทางด้านหลังหรือตรงกลางของศีรษะมาปกปิดหน้าผากของเรา เหมือนกับคลื่นที่เข้ามาซัดบนชายฝั่งนั้นเอง
3. ลานจอดยาน (grounding)
ภาพจาก spaceflight
ถ้าเทียบจากเทคนิคการซ่อนหัวล้าน7แบบแล้วล่ะก็วิธีนี้เป็นวิธีที่ไว้ใช้สำหรับใครที่มีเวลาค่อนข้างน้อยนั่นคือ การเอาผมจากด้านหลังของเราทั้งหมดปัดจัดทรงให้มาปกปิดบริเวณหน้าผากและด้านข้างให้หมดโดยไม่แคร์ว่าผมด้านหลังจะเป็นอย่างไร ขอข้างหน้าซ่อนหัวล้านให้ได้ก่อน การทำผมแบบนี้อาจทำให้สังเกตเห็นขวัญตรงกลางศีรษะของเราชัดเจนขึ้น แต่ก็อย่าได้สนใจเพราะใครจะไปเห็นตรงนั้นล่ะนอกซะจากคนที่ตัวสูงกว่าเรา ฉะนั้นวิธีนี้อาจเหมาะกับคนที่มีรูปร่างสูงโปร่งแต่ดันหัวล้านตรงหน้าผากนั่นเอง เทคนิคนี้เป็นการซ่อนแบบแก้ขัดไปก่อนละมีเวลาค่อยมาจัดทรงกันใหม่ แล้วทำไมถึงเรียกว่าทรงลานจอดยานน่ะหรอ เพราะเมื่อทำทรงนี้แล้วผมตรงกลางอาจะดูบางลงและโล่งเหมือนลานจอดยานนั่นเอง
ผ่านกันไปครึ่งทางกับเทคนิคการซ่อนหัวล้าน7แบบกันไปแล้ว วิธีที่เหลือต่อไป ยังมีอีก 4-6 แบบที่เราจะมาแนะนำคือการซ่อนหัวล้านสำหรับตอนถ่ายรูป โพสต์ท่าไหนถึงจะได้รูปที่ดูดีเท่ๆแนวๆซ่อนหัวล้านได้นั้นไปดูกันเลย
4. องศาช่วยได้ (angle)
อย่างที่เราพอจะรู้กันอยู่แล้วว่าการถ่ายรูปนั้น องศาเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้เราดูดีมีสไตล์ ซึ่งเรื่ององศาของใบหน้านั้นก็ยังช่วยเรื่องการซ่อนหัวล้านปิดเถิกได้เช่นกัน อยากให้ทุกคนลองทำตามกันดู อาจจะเข้าใจทันทีว่าองศาจะช่วยซ่อนหัวล้านได้อย่างไร อันดับแรกเลย ลองถ่ายรูปหน้าตรงธรรมดาปกติ 1รูป แล้วรูปต่อไปค่อยๆเงยหน้าที่ละนิดละลองถ่ายใหม่อีกครั้ง ลองทำแบบนี้ไปเรื่อยๆสักสามถึงสี่ภาพ จากนั้นลองเอาภาพมาวางเทียบกันดูจะเห็นได้ว่าในจังหวะที่เราเงยหน้าขึ้นไปทีละนิดนั้น หน้าผากของเราจะค่อยๆเล็กลงไปตามองศาที่เราเงยหน้านั่นเอง ทีนี้ลองโพสต์ท่าตามกันดูและเราก็จะมีรูปโพสต์น่ารักๆใสๆแบบหน้าผากไม่ใสกันแล้วนะ
5. ท่าไม้ตาย (death match)
ท่านี้สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะโพสต์ท่าอะไรดี วิธีนี้เหมาะมาก คือ การทำท่าเลิกคิ้ว ท่านี้นั้นจะทำให้หน้าผากเรานั้นลดขนาดลงได้ถึง 57% ของพื้นที่ปกติ เป็นวิธีง่ายๆชิวๆสำหรับหนุ่มๆที่ขี้อายหรือไม่รู้ว่าจะโพสต์ท่าอะไรกันดี แนะนำให้เลิกคิ้วใส่กล้องเลย เป็นท่าโพสต์ซ่อนหัวล้าน 7แบบ แบบกวนๆเท่ๆได้อีก
6. หลอกสายตา (fake)
ท่านี้สำหรับคนที่ต้องการจะถ่ายรูปโดยใช้อุปกรณ์เข้ามาช่วย เป็นการเอาอุปกรณ์มาเพื่อเบียงเบนจุดสนใจ จากที่คนอื่นจะสนใจหน้าผากอันใสๆและใหญ่โต เขาก็จะหันมาสนใจตัวอุปกรณ์ที่เราเอาเข้ามาแทนนั่นเอง วิธีง่ายๆเลย เช่น การหาแว่นมาคาดผม หรือไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปแบบอ้าปาก เพื่อให้เค้าสนใจปากแทนหน้าผากของเรา ใครมีเทคนิคหรืออุปกรณ์อะไรก็ลองหามาทำกันดูนะ
เรามาถึงวิธีสุดท้ายของ เทคนิคการซ่อนหัวล้าน7แบบ กันแล้ว!สำหรับใครที่คิดว่า6วิธีที่ผ่านมานั้นยังไม่ถูกใจละก็มาที่วิธีสุดท้ายกันเลย วิธีนี้ขอตั้งชื่อให้ว่า
7. ศิลปินกระหม่อมน้อย (mankaga)
เราจะเห็นกันบ่อยๆว่าพวกศิลปินหรือไม่ว่าจะเป็นนักเขียนการ์ตูนมักจะชอบใส่หมวกเพื่อเป็นการสร้างcharacter ให้กับตัวเอง ดังนั้นง่ายๆเลย พวกเราก็มาแต่งตัวเป็นศิลปินติสแตกกันเลยดีกว่า เป็นการซ่อนหัวล้านได้ดีแล้วยังมีสไตล์ที่เท่ไปพร้อมกันอีกด้วย
ผ่านไปแล้วกับ เทคนิคการซ่อนหัวล้าน7แบบ ที่ทำได้เองง่ายๆโดยไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินไปหาซื้อวิกมาใส่ ส่วนใครชอบอันไหนหรือคิดว่าอันไหนเหมาะกับตัวเองก็ลองทำกันดู และถ้าใครมีวิธีอื่นที่นอกเหนือจาก7แบบนี้ก็อย่าลืมมาแนะนำกันด้วยนะ
