รู้จักกับยา Finasteride-ฟิแนสเทอไรด์
Finasteride-ฟิแนสเทอไรด์ หลายคนอาจรู้จักกันในนามของ"ยา"ที่ช่วยในการรักษาแก้ปัญหาศีรษะล้านอย่างรุนแรงในกลุ่มผู้ชาย ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยทำให้เส้นผมกลับมาดกดำอีกครั้ง แต่ก่อนที่คุณหนุ่มๆจะตบเท้าเดินเรียงแถวไปพบแพทย์เพื่อติดต่อขอรับยาปลูกผม Finasteride-ฟิแนสเทอไรด์ มาทาน ขอแนะนำว่าให้ทำการอ่านบทความชิ้นนี้อย่างละเอียดจนจบเสียก่อน เพราะเจ้าตัวยาตัวนี้เองก็ใช่ว่ามีแต่ข้อดี หากแต่มีผลข้างเคียงหลายประการที่ควรทำการศึกษาให้ดีเสียก่อนเช่นเดียวกัน ไม่อย่างนั้นอาจต้องมาเสียใจภายหลังเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน เรามารับทราบข้อมูลที่น่าสนใจของยาปลูกผม Finasteride-ฟิแนสเทอไรด์ กันเลยดีกว่า
ยา Finasteride-ฟิแนสเทอไรด์ คืออะไร
Finasteride-ฟิแนสเทอไรด์ คือ ยาที่ใช้ในการรักษาโรคดังต่อไปนี้
- โรค Benign Prostatic Hyperplasia หรือภาษาไทยเรียกว่าโรคต่อมลูกหมากโต
- โรคศีรษะล้านหรือภาษาบ้านๆที่เราเรียกกันว่า หัวล้าน
ยาFinasteride-ฟิแนสเทอไรด์ ช่วยในการรักษาปัญหาหัวล้านได้อย่างไร?
ยาFinasteride-ฟิแนสเทอไรด์ เป็นตัวยาทางการแพทย์ที่นิยมนำมาใช้ในการรักษาอาการหัวล้านรุนแรงของผู้ชาย ด้วยคุณสมบัติในการช่วยแก้ไขปัญหาผมร่วงจากกรรมพันธุ์ ช่วยในการรักษาปัญหาหัวล้าน และป้องกันผมร่วง ด้วยการยังยั้ง เอนไซม์ 5-แอลฟารีดักเตส ต่อต้านฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย
ชื่อเรียกยาFinasteride-ฟิแนสเทอไรด์ทางการค้า
- Firide-ฟีไรด์
- Propecia-โพรพิเซีย
- Proscar-โพรสการ์
- Prosteride-โพรสเตอไรดฺ์
- Stercia-5-สเตอร์เซีย-5
ปริมาณยาFinasteride-ฟิแนสเทอไรด์ ที่มีจำหน่ายตามร้านขายยา
โดยตัวยา Finasteride-ฟิแนสเทอไรด์ ที่วางจำหน่ายในปัจจุบันมักเป็นประเภทสำหรับใช้รับประทาน โดยมีปริมาณ 1 และ 5 mg/เม็ด โดยทั่วไปแพทย์จะทำการสั่งยา Finasteride-ฟิแนสเทอไรด์ ในปริมาณ 1 มิลลิกรัมเพื่อใช้ในการรักษาหัวล้านซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่ยาFinasteride-ฟิแนสเทอไรด์ถูกสั่งจ่ายในปริมาณ 1 มิลลิกรัมแล้วล่ะก็จะไม่จัดอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติทันที
วิธีรับประทานยาFinasteride-ฟิแนสเทอไรด์
1.วิธีรับประทานยาFinasteride-ฟิแนสเทอไรด์สำหรับรักษาอาการหัวล้าน
▶ รับประทานก่อนหรือหลังอาหาร ปริมาณ 1 mg วันละ 1 ครั้ง
2.วิธีรับประทานยาFinasteride-ฟิแนสเทอไรด์สำหรับรักษาอาการต่อมลูกหมากโต
▶รับประทานก่อนหรือหลังอาหาร ปริมาณ 5 mg วันละ 1 ครั้ง
หลังจากทานยา Finasteride นานหรือเปล่าถึงจะเห็นผลลัพธ์เส้นผมที่ดกดำ
หลังจากทำการทานยา Finasteride ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือนขึ้นไป โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเริ่มเห็นผลลัพธ์เส้นผมที่ดกดำมากขึ้น แต่ผลในการรักษานั้นจะค่อยๆลดน้อยลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับสู่สภาพปัญหาหัวล้านอีกครั้งหลังจากที่ทำการหยุดทานประมาณ 12 เดือน ดังนั้น ถ้าหากใครอยากมีเส้นผมที่ดกดำก็จำเป็นที่จะต้องทานยาปลูกผม Finasteride อยู่ตลอด โดยไม่ปล่อยให้ร่างกายเกิดการขาดยาอย่างเด็ดขาด
Side effects หรือ ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Finasteride-ฟิแนสเทอไรด์
เนื่องจากคุณสมบัติของยา Finasteride-ฟิแนสเทอไรด์ ที่เข้าไปทำการลดฮอร์โมนเพศชายให้น้อยลงเพื่อรักษาปัญหาหัวล้านที่มีสาเหตุมาจากฮอร์โมนที่มากจนเกินไป เมื่อทำการทานอย่างต่อเนื่องจึงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่คุณหนุ่มๆไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองมากที่สุด นั่นคืออาการ “นกเขาไม่ขัน” ความต้องการทางเพศลดลง และปริมาณของน้ำกามที่น้อยลง เนื่องจากสมรรถภาพทางเพศที่ลดลงตามระดับของฮอร์โมนนั่นเอง อาการผิดปกติเหล่านี้จะลดน้อยลงและกลับมาเป็นปกติในที่สุดเมื่อทำการหยุดทานยาไปนานระยะหนึ่ง ทำให้การใช้ยา Finasteride-ฟิแนสเทอไรด์ เพื่อช่วยในการรักษาปัญหาหัวล้านจำเป็นที่จะต้องเคร่งครัดกับคำแนะนำของแพทย์ทั้งในเรื่องขอบเขตการใช้ปริมาณของยา และไม่ควรทำปรับเปลี่ยนขนาดของการใช้ด้วยตัวเองอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ ถ้าหากคุณมีปัญหาแพ้ยาทุกชนิด มีโรคประจำตัว กำลังทานยาสำหรับใช้รักษาโรคต่างๆ หรือกำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยา Finasteride-ฟิแนสเทอไรด์ เพราะมีโอกาสที่จะทำก่อให้เกิดอาการข้างเคียงมากขึ้นกว่าเดิม
สรุป
นอกจากนี้คุณยังต้องให้ความระมัดระวังอันตรายอื่นๆที่มาพร้อมกับการซื้อยาปลูกผม Finasteride มาทานเอง เพราะนอกจากผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการใช้ปริมาณยาอย่างไม่เหมาะสมแล้ว คุณยังต้องระมัดระวังยาปลูกผม Finasteride ปลอม ที่กำลังแพร่หลายอยู่ในอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงการสั่งซื้อตัวยาผ่านบุคคลอื่นที่ไม่ใช่แพทย์หรือเภสัชผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากยาปลูกผม Finasteride มีราคาที่ค่อนข้างแพง อีกทั้งยังได้รับความนิยมอย่างมาก จนทำให้เหล่ามิจฉาชีพหัวใสทำการปลอมตัวยาออกมาวางจำหน่ายกันอย่างมากเลยทีเดียว