หัวล้านเกิดจากอะไร!? มาฟังคำตอบกันเลย!!!
หัวล้านเกิดจาก?
ปัญหาหัวล้าน ผมร่วงและผมบาง เป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้หลายคนหนักอกหนักใจอย่างมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ชายที่มักเกิดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาหัวล้านขึ้นได้ง่ายกว่าผู้หญิงจากหลายสาเหตุนั่นเอง เพื่อเป็นการช่วยไขปริศนาว่าหัวล้านเกิดจากอะไร? และทำอย่างไรจึงจะสามารถจัดการกับปัญหาหัวล้านกวนใจให้หายลับไปจากชีวิตได้อย่างรวดเร็วและถาวรมากยิ่งขึ้น ขอแนะนำให้อ่านบทความชิ้นนี้จนจบรับรองว่าคราวนี้คุณจะรับมือyoปัญหาหัวล้านไม่ว่าเกิดขึ้นจากอะไรก็ทำได้แบบอยู่หมัดอย่างแน่นอน...
มารู้จักกับประเภทของหัวล้านกันก่อน
โดยพื้นฐานแล้วหัวล้านเกิดจากสามสาเหตุหลักอันได้แก่ หัวล้านที่เกิดจากกรรมพันธุ์ (Androgenetic alopecia, หรือ AGA) หัวล้านที่เกิดจากการใช้ชีวิตแบบหักโหมไม่ใส่ใจสุขภาพของตัวเอง และหัวล้านที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของหนังศีรษะ หัวล้านในผู้หญิง หัวล้านเป็นหย่อมๆ เป็นต้น อย่างไรก็ตามหัวล้านในผู้ชายกว่าร้อยละ 90 มักเกิดจากหัวล้านกรรมพันธุ์ (Androgenetic alopecia หรือ AGA) ซึ่งเป็นประเภทของหัวล้านที่ควรให้ความใส่ใจและทำความรู้จักกันมากที่สุดเพื่อที่จะได้เตรียมแผนการรับมือได้อย่างทันท่วงที เราไปดูกันดีกว่าว่าปัญหาหัวล้านที่เกิดจากกรรมพันธุ์ (Androgenetic alopecia หรือ AGA) นั้น เกิดขึ้นมาจากสาเหตุใดกัน?
สาเหตุที่#1 หัวล้านเกิดจากกรรมพันธุ์ Androgenetic alopecia หรือ AGA ซึ่งต้องระวังที่สุด!!
หัวล้านเกิดจากกรรมพันธุ์ Androgenetic alopecia หรือ AGA เป็นหัวล้านที่เกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์หรือยีนที่ถูกส่งต่อจากบิดามารดาไปยังบุตร อย่างไรก็ตามไม่ต้องกังวลไปเพราะว่าใช่ว่าทุกคนที่ได้รับยีนตัวนี้แล้วจะต้องกลายเป็นความหัวล้านไปเสียหมด เพราะสาเหตุที่ทำให้หัวล้านเกิดจากปัจจัยร่วมอื่นอีกหลายประการ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การได้รับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเทอโรน (Testosterone) และ Dihydrotestosterone หรือ DHT ในปริมาณที่มากกว่าปกติส่งผลให้รูขุมขนบริเวณหนังศีรษะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น รากผมอ่อนแอฝ่อตัวจนนำไปสู่การหยุดเติบโตของเส้นผมจนกระทั่งทำให้เกิดภาวะผมร่วง ผมบางและหัวล้านขึ้นมาในที่สุด ซึ่งอัตราการผลิตฮอร์โมนทั้งสองตัวนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์กรรม ดังนั้นหากบิดามารดามีอัตราการหลั่งฮอร์โมนเหล่านี้สูงผู้เป็นบุตรก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดหัวล้านเกิดจากกรรมพันธุ์มากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง นอกจากนี้โรคหัวล้านเกิดจากกรรมพันธุ์ยังเป็นปัญหาที่ไม่ควรนิ่งนอนใจในการรักษาอย่างมาก เพราะหากปล่อยเอาไว้ไม่ยอมทำการแก้ไขอย่างเหมาะสมในระยะเวลาเพียง 5 ปี หลังจากนั้น เส้นผมก็จะบางลงไปได้มากถึง 30% เลยทีเดียว
หัวล้านเกิดจากกรรมพันธุ์ (AGA)ส่งผลร้ายแรงอย่างไร?
หัวล้านกรรมพันธุ์ ทำให้เกิดปัญหาด้านเส้นผมและสุขภาพหนังศีรษะ โดยส่งผลกระทบในด้านต่างๆที่ควรทราบ ดังต่อไปนี้
- ปัญหาผมขาดหลุดร่วงมากกว่าปกติ（ผมร่วงแค่ไหนถึงเรียกว่าผิดปกติ？>>>คลิก）
- ปัญหาผมบางจนเห็นหนังศีรษะและลุกลามไปจนกลายเป็นปัญหาหัวล้าน
- ปัญหารากเส้นผมมีการเสื่อมสภาพรวดเร็วกว่าปกติ
- ปัญหาหัวล้านถาวรที่ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานเพียงใดเส้นผมก็ไม่สามารถกลับมางอกใหม่ได้
- ปัญหาหัวล้านเกิดจากกรรมพันธุ์ไม่สามารถทำการรักษาได้ด้วยวิธีการปกติทั่วไป
สิ่งสำคัญที่ผู้ชายประสบปัญหา หัวล้านจากกรรมพันธุ์(AGA) ควรตระหนักคือ
- เมื่อเกิดปัญหาหัวล้านจากกรรมพันธุ์ขึ้น มีหลายสิ่งที่คุณควรทราบเพื่อช่วยในการรับมือกับปัญหาหัวล้านจากกรรมพันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังต่อไปนี้
- ยาปลูกผมธรรมดาทั่วไปไม่สามารถช่วยรักษาปัญหาหัวล้านจากกรรมพันธุ์ (AGA)
- แชมพูปลูกผมธรรมดาทั่วไปไม่สามารถช่วยบรรเทาหรือแก้ไขปัญหาหัวล้านจากกรรมพันธุ์ (AGA)
- การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอาจไม่สามารถรักษาปัญหาหัวล้านกรรมพันธุ์ (AGA) ได้ เนื่องจากความผิดปกติที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในยีนพันธุ์กรรมภายในร่างกาย ไม่ได้เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมหรือการดำเนินชีวิตประจำวัน
ภาวะหัวล้านที่เกิดจากกรรมพันธุ์ สังเกตได้จาก?
- คุณสามารถทำการสังเกตได้ว่าตัวเองกำลังประสบกับปัญหาหัวล้านเกิดจากกรรมพันธุ์หรือไม่? ผ่านการสังเกตตัวเองอย่างง่ายๆด้วยความใส่ใจดังต่อไปนี้
- เมื่อเกิดปัญหาหัวล้านเกิดจากกรรมพันธุ์ รู้เส้นขนจะเกิดการขยายตัวใหญ่ขึ้นมากจนผิดปกติ
- เมื่อเกิดปัญหาหัวล้านกรรมพันธุ์ เส้นผมจะบางลงจนมองเห็นได้อย่างชัดเจน เพราะเส้นผมใหม่มีการงอกตัวช้ากว่าปกติ เมื่อมองใกล้จะเห็นเส้นผมสั้นๆเหมือนกับพึ่งงอกขึ้นมาใหม่อยู่เต็มไปหมด
- เมื่อเกิดปัญหาหัวล้านเกิดจากกรรมพันธุ์สามารถสังเกตเห็นเส้นผมที่บางบริเวณกว้างบนหนังศีรษะ
- ปัญหาหัวล้านเกิดจากกรรมพันธุ์เส้นผมจะหลุดร่วงเร็วกว่าปกติและไม่งอกขึ้นมาใหม่อีกเลย
คนที่เสี่ยงจะเป็นโรคหัวล้านเกิดจากกรรมพันธุ์ (Androgenetic alopecia หรือ AGA) คือคนที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
1.คนที่มีปัญหาหัวล้านตั้งแต่เป็นวัยรุ่น
ตามธรรมชาติแล้ววัยรุ่นที่อยู่ในช่วงอายุ 10-20 ปี สภาพของหนังศีรษะจะมีความแข็งแรงทำให้มีอัตราการงอกใหม่ของเส้นผมที่รวดเร็ว ทำให้มีโอกาสน้อยมากที่จะได้เห็นสัญญาณของการเกิดปัญหาหัวล้านขึ้น แต่ถ้าหากหัวล้านเกิดจากกรรมพันธุ์ ก็จะส่งผลทำให้หนังศีรษะอ่อนแอมากกว่าปกติจนกระทั่งนำไปสู่การเกิดปัญหาหัวล้านกรรมพันธุ์ขึ้นตั้งแต่ในช่วงวัยรุ่น >>>รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวล้านในวัยรุ่นคลิก！！
2.คนที่ผมหลุดร่วงในปริมาณมากและมีลักษณะสั้น
โดยทั่วไปเส้นผมจะมีอายุ 2-6 ปี ก่อนที่จะเสื่อมสภาพและหลุดร่วงไปเองตามธรรมชาติ โดยจะมีลักษณะหนาและยาวดูด้วยตาจะเห็นได้ชัดว่าเป็นเส้นผมที่แข็งแรง หลังจากการหลุดร่วงเส้นผมจะงอกขึ้นมาใหม่เป็นวงจรซ้ำๆ แต่ถ้าหากการหลุดร่วงของเส้นผมมีความปกติขึ้นมาเมื่อไหร่ จะสังเกตเห็นได้ว่าเส้นผมที่หลุดร่วงเป็นจำนวนมากมีลักษณะบางและสั้นอันเป็นลักษณะของเส้นผมที่อ่อนแอ นั่นหมายความว่าพวกมันหลุดร่วงออกจากหนังศีรษะก่อนช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเกิดขึ้นจากโรคหัวล้านกรรมพันธุ์ Androgenetic alopecia หรือ AGA นั่นเอง
3.คนที่ผมบางเฉพาะจุด
โรคหัวล้านเกิดจากกรรมพันธุ์ Androgenetic alopecia หรือ AGA มีลักษณะการหลุดร่วงของเส้นผมที่ค่อนข้างสังเกตได้อย่างชัดเจน ดังต่อไปนี้
- หัวล้านในลักษณะรูปตัวอักษร M โดยเส้นผมจะบางแหลมขึ้นไปทั้งสองด้านของไรผมที่หน้าผาก
- หัวล้านในลักษณะของรูปตัวอักษร O โดยเส้นผมจะบางที่กลางกลระหม่อมเป็นรูปวงกลม
- หัวล้านในลักษณะของรูปตัวอักษร U โดยเส้นผมจะบางบริเวณหน้าผากขึ้นไปเป็นรูปตัว U คว่ำ
ถ้าหากทำการสังเกตแล้วพบว่าตัวคุณมีอาการผมร่วง ผมบางและหัวล้านในลักษณะเดียวกับที่ได้กล่าวถึงกันไปแล้วในตอนต้น สิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่ากำลังประสบกับปัญหาโรคหัวล้านกรรมพันธุ์ ขอแนะนำว่าอย่ามัวแต่ชะล่าใจไปควรรีบไปทำการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำปรึกษาในการแก้ไขปัญหาหาอย่างรวดเร็วที่สุด>>>สถาบันปลูกผมที่น่าสนใจคลิก
สาเหตุที่ #2 โรคหัวล้านเกิดจากลักษณะการใช้ชีวิตแบบไม่ใส่ใจตัวเอง
การใช้ชีวิตประจำวันด้วยพฤติกรรมเสี่ยงส่งผลกระทบทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบางและหัวล้านได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ถ้าหากคุณเข้าข่ายดำเนินชีวิตท่ามกลางพฤติกรรมเสี่ยงดังต่อไปนี้ ขอแนะนำว่าให้รีบปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตของตัวเองเสีย ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะไม่ทราบเลยว่าหัวล้านเกิดจากอะไรกันแน่?
1.หัวล้านเกิดจากการนอนน้อยหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
ในขณะที่ทำการพักผ่อนนอนหลับช่วงกลางคืน ร่างกายของคนเราจะหลั่งสารฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโตออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าฮอร์โมนตัวนี้ส่งผลต่อการงอกเส้นผมใหม่อย่างมาก ถ้าหากทำการนอนหลับไม่เพียงพอฮอร์โมนก็จะหลั่งน้อยลง เส้นผมใหม่ก็จะเกิดการงอกน้อยลงตามไปด้วย ดังนั้นถ้าหากอยากมีเส้นผมที่ดกดำสวยงาม การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจึงเป็นทางออกของปัญหาหัวล้านที่ดีที่สุด
2.หัวล้านเกิดจากการรับประทานอาหารขยะเป็นประจำ
โดยพื้นฐานแล้วปัญหาหัวล้านเกิดจากหนังศีรษะเกิดการเสื่อมสภาพลง สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหานี้คือการทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายแถมยังอุดมไปด้วยไขมันและคอเลสเตอรอลที่สูงลิบ ซึ่งอาหารที่เต็มไปด้วยสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพของเส้นผมเหล่านี้คือบรรดา “อาหารขยะ” ที่มีให้เลือกรับประทานตามใจปากอยู่อย่างมากมายในปัจจุบันนั่นเอง ไขมันภายในอาหารเหล่านี้จะเข้าไปทำการอุดตันเส้นเลือด ขัดขวางกระบวนไหลเวียนของโลหิตบริเวณหนังศีรษะซึ่งทำให้เส้นผมใหม่งอกตัวได้ยากขึ้น ดังนั้น การพยายามหลีกเลี่ยงอาหารขยะเหล่านี้ แล้วทานไขมันอย่างเหมาะสมประมาณเพียงวันละ 55-60 กรัมต่อวัน เพียงเท่านี้ โอกาสเกิดปัญหาหัวล้านก็จะลดน้อยลงอย่างมากเลยทีเดียว
3.หัวล้านเกิดจากการได้รับธาตุสังกะสีไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ปัญหาผมร่วง ผมบางและหัวล้าน เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้หากร่างกายได้รับสารอาหารหรือแร่ธาตุบางอย่างในปริมาณที่ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะ “ธาตุสังกะสี” ที่มีความสำคัญอย่างมากกับระบบการทำงานต่างๆของร่างกายและยังส่งผลต่อการงอกใหม่ของเส้นผมอีกด้วย ถ้าหากคุณต้องการธาตุสังกะสีเพื่อช่วยในการจัดการกับปัญหาผมร่วง ผมบางและหัวล้าน เพียงแค่หันมาทานอาหารบางประเภทที่อุดมไปด้วยธาตุสังกะสี อาทิเช่น เนื้อสัตว์ทุกประเภท ตับ นม เนย ปู กุ้ง ไข่ หอยนางรม ผักใบเขียว รวมไปถึงบรรดาเหล่าผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะม่วง สับปะรดและแอปเปิล เป็นต้น
4.หัวล้านเกิดจากการสูบบุหรี่
งานวิจัยหลายชิ้นชี้ผลการศึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่าปัญหาผมร่วง ผมบางและหัวล้าน สาเหตุสำคัญมากจากการสูบบุหรี่ สารพิษจากบุหรี่ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบการไหลเวียนโลหิตส่งผลให้การส่งเลือดและสารอาหารไปหล่อเลี้ยงเซลล์รากผมไม่เพียงพอ ดังนั้น ถ้าหากใครไม่อยากให้ปัญหาหัวล้านเกิดขึ้นกับตัวเองควรงดละเลิกการสูบบุหรี่จะเป็นทางที่ดีที่สุด
5.หัวล้านเกิดจากความเครียด
ความเครียดนอกจากจะส่งผลบั่นทอนสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ ยังส่งผลกระทบต่อเส้นผมอย่างมาก เมื่อคุณมีความเครียดสะสมอยู่ภายในตัวเองมากๆก็จะทำให้เส้นผมหยุดการเจริญเติบโต อ่อนแอ จนนำไปสู่การเกิดปัญหาผมร่วง ผมบางและหัวล้านขึ้นมาในที่สุด ดังนั้นเมื่อรู้สึกตัวว่าความเครียดกำลังมาเยือนควรหาเวลาเวลาพักผ่อน ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ หรือทำกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ เพื่อช่วยในการผ่อนคลายลดความเครียดให้น้อยลง นอกจากนี้คุณยังสามารถที่จะรับประทานอาหารที่ส่งผลต่อระดับฮอร์โมนที่ช่วยลดความเครียดให้น้อยลง อาทิเช่น น้ำมันปลาและช็อกโกแลต ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดความเครียดให้น้อยลงได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
สาเหตุที่ #3 โรคหัวล้านเกิดจากการเสื่อมสภาพของหนังศีรษะ
สภาพแวดล้อมในชีวิตประจำวัน และการใช้ผลิตภัณฑ์ตกแต่งทรงผม ผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะที่ไม่ได้คุณภาพเต็มไปด้วยสารเคมี สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการระคายเคืองบนหนังศีรษะ ลดอัตราการเจริญเติบโตของเส้นผมจนกระทั่งนำไปสู่การเกิดปัญหาหัวล้านขึ้นมาในที่สุด ถ้าหากใครไม่อยากให้ปัญหาหนังศีรษะเสื่อมสภาพขึ้นมาขอแนะนำให้ทำตามขั้นตอนง่ายๆดังต่อไปนี้กันได้เลย
วิธีรักษาหนังศีรษะไม่ให้เสื่อมสภาพเพื่อลดปัญหาหัวล้าน
1.ไม่ควรทำให้หนังศีรษะระคายเคืองมากเกินไป
หนังศีรษะเป็นบริเวณที่มีความบอบบาง และยังเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่สร้างความระคายเคืองให้กับหนังศีรษะก็จะทำให้เกิดปัญหาตามมามากมายไม่ว่าเป็นรังแค และรูเส้นผมเกิดการอุดตันมากขึ้น จนทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบางและหัวล้านขึ้นมาในที่สุด
>>เคล็ดลับเทคนิคขจัดรังแคแบบทันใจ คลิก！
2.ไม่ควรใช้แชมพูที่มีฤทธิ์แรง
แชมพูที่มีฤทธิ์แรงที่ก่อให้เกิดปัญหาความระคายเคืองของหนังศีรษะนั้นได้แก่ แชมพูที่มีส่วนผสมของสารเพิ่มฟองและน้ำหอม ที่ทำให้หนังศีรษะเกิดอาการอักเสบและยังชำระล้างน้ำมันบนหนังศีรษะออกไปมากจนผิดปกติทำให้เกิดปัญหาหนังศีรษะแห้งขึ้น ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีส่วนประกอบของสารเหล่านี้หรือควรเป็นสูตรที่ชำระล้างคราบไขมันบนหนังศีรษะอย่างพอเหมาะหรืออาจหันมาใช้แชมพูออร์แกนิคดูก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว
★★แนะนำแชมพูยาสระผมออร์แกนิคสูตรอ่อนโยนโดยมีส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 98%จากAVEDA แชมพู Invati Advanced Exfoliating Shampoo สามารถใช้ได้ทุกวันไม่เป็นอันตรายต่อเส้นผมและหนังศีรษะเพื่อขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจดในขณะเดียวกันช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมในระหว่างสระผมได้อีกด้วย! ขนาด 1,000ml ราคา 4,410 บาท
ภาพจาก Central.co.th
3.ไม่ควรสระผมบ่อยจนเกินไป
หลายคนอาจไม่ทราบมาก่อนว่าหัวล้านเกิดจากการสระผมบ่อยจนไปได้เช่นกัน คนทั่วไปเชื่อว่ายิ่งสระผมบ่อยมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีมากเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วยิ่งสระผมก็จะเป็นการกระตุ้นให้หนังศีรษะผลิตไขมันออกมาเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้ผิวหนังและเส้นผมมากขึ้นจนทำให้เกิดการหลั่งออกมามากจนผิดปกติในที่สุด ซึ่งนำไปสู่การเกิดปัญหาเชื้อแบคทีเรีย รูขุมขนอักเสบและรังแคกวนใจ เป็นต้น ขอแนะนำว่าควรสระผมอย่างมากเพียงวันละหนึ่งครั้ง และในขณะที่ทำการสระผมให้ทำด้วยความอ่อนโยนไม่เผลอเกาอย่างรุนแรงจนทำให้หนังศีรษะเป็นรอยอย่างเด็ดขาด
4.ไม่ควรปล่อยให้ผมหลังสระแห้งเองเพราะอาจทำให้เกิดเชื้อรา
ความชื้นในเส้นผมอาจทำให้เกิดปัญหาเชื้อรา Malassezia ที่ทำให้เกิดอาการอักเสบของรูเส้นขน อาการคันและรังแคขึ้นบนหนังศีรษะ ดังนั้นการเป่าผมให้แห้งหลังจากการสระผมจึงเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี เพราะถึงแม้จะเป็นเพียงปัญหาเล็กๆที่คนทั่วไปมองข้าม แต่มันก็อาจลุกลามขยายตัวจนกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบางและหัวล้านขึ้นมาได้อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
5.ไม่ควรสวมหมวกเป็นเวลานาน
การสวมใส่หมวกทั้งวันโดยไม่ถอดออกทำให้เกิดการสะสมตัวของเชื้อแบคทีเรีย Malassezia เมื่อมีจำนวนมากเข้ามันก็จะทำให้เกิดการอุดตันรูเส้นขนและทำให้เกิดอาการอักเสบ ผลลัพธ์ที่ตามมาคือปัญหาผมร่วงอีกด้วย นอกจากนี้การสวมหมวกยังเป็นการปิดกั้นการไหลเวียนของโลหิตที่ไหลเวียนไปเลี้ยงเซลล์รากผมอีกด้วย ถ้าหากจำเป็นต้องสวมหมวกขอแนะนำให้ทำการเลือกที่ขนาดพอเหมาะกับศีรษะหรือขนาดที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย โปร่ง ระบายอากาศได้ดีจะช่วยป้องกันปัญหาผมร่วง ผมบางและหัวล้านได้เป็นอย่างดีมากยิ่งขึ้น
6.ควรลดการสะสมของไขมันและของเสีย
ร่างกายของมนุษย์สามารถทำการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้หลายช่องทาง หนึ่งในนั้นคือรูขุมขนบนหนังศีรษะนั่นเองแต่เมื่อของเสียผสมเข้ากับไขมันบนหนังศีรษะอาจทำให้กลายเป็นไขมันอุดตันรูเส้นขน และทำให้รากผมไม่ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอจนทำให้ไม่แข็งแรงและหลุดร่วงได้ง่ายก่อนวัยอันควร สำหรับวิธีการแก้ไขก็ไม่ยาก เพียงแค่ปรับพฤติกรรมการทานอาหารลดไขมันให้น้อยลงเพียงเท่านี้ก็จะช่วยป้องกันปัญหาหัวล้านจากสาเหตุนี้ให้น้อยลงได้เป็นอย่างดี
7.ไม่ควรให้เส้นผมและหนังศีรษะได้รับแสงอุลต้ราไวโอเล็ตเป็นเวลานาน
แสงอุลตร้าไวโอเล็ตจากแสงแดดหากได้รับเป็นระยะเวลานานๆจะส่งผลกระทบกับหนังศีรษะทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวันอันควร และยังทำลายออกซิเจนที่ใช้ในการงอกผมใหม่ซึ่งเป็นการรบกวนอย่างมากจนอาจทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบางและหัวล้านได้ก่อนวัยอันควร อย่างไรก็ตามควรให้เส้นผมและหนังศีรษะได้รับแสงแดดบ้าง เพราะเป็นการช่วยสังเคราะห์วิตามินที่ส่งผลดีต่อผิวพรรณ
★★ปกป้องรากผมและเส้นผมจากรังสียูวีเอและยูวีบีได้ด้วย SISLEY Hair Protective Fluid๋★★
ฉีดปุ้ปปกป้องเส้นผมจากแสดงแดดปั๊ป ด้วยส่วนผสมอันละมุนจากธรรมชาติจากซิตรัส วู้ดดี้ เวอร์บีน่า เลม่อน พีชและบลอสซั่ม ท้าให้ลองสำหรับใครที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งเหมาะมากๆกับการปกป้องเส้นผมและหนังศีรษะ ขนาด 150ml ราคา 2,700THB
8.ลดการดัด ย้อมและยืดเส้นผม
สารเคมีจากน้ำยาการดัด ย้อมและยืดเส้นผมเป็นสิ่งอันตรายต่อหนังศีรษะอย่างมากและทำให้เกิดความไวต่อแสงแดดและสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อเส้นผมได้มากขึ้น นอกจากนี้การยืดเส้นผมก็ยังเป็นการทำร้ายไรผมจนก่อให้เกิดปัญหาผมร่วงมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ถ้าอยากมีผมสวยปราศจากปัญหาผมร่วง ผมบางและหัวล้านการพยายามหลีกเลี่ยงการรบกวนเส้นผมเหล่านี้ย่อมเป็นหนทางที่ดีที่สุด
สาเหตุที่ #4 โรคหัวล้านเกิดจากภาวะคลอดบุตรและวัยหมดประจำเดือน
ผู้หญิงทั้งหลายที่มีอาการ ผมร่วง ผมบางจนกลายเป็นโรคหัวล้านนั้นคุณเคยสังเกตหรือไม่ว่าคุณกำลังอยู่ในช่วงหลังคลอดบุตรหรือวัยหมดประจำเดือนหรือเปล่า เนื่องจากในภาวะหลังคลอดหรือวัยหมดประจำเดือนนั้นฮอร์โมนในร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงและไม่สมดุลเท่าเหมือนภาวะปกติ ดังนั้นจึงมีโอกาสเป็นไปได้ที่สภาพเส้นผมจะอ่อนแอและเกิดการหลุดร่วงจนกลายเป็นหัวล้านในช่วงเวลานั้นๆได้
สาเหตุที่ #5 โรคหัวล้านเกิดจากภูมิคุ้มกันผิวหนังบกพร่อง
ในผู้ที่มีอาการผมร่วงหรือหัวล้านเป็นหย่อมๆไม่ได้ล้านไปทั้งศีรษะนั้นอาจกล่าวได้ว่ากำลังเผชิญกับปัญหา "โรคผมร่วงเป็นหย่อมๆ" โรคนี้เกิดจากภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนแต่ที่พบบ่อยจะเป็นในช่วงอายุต่ำกว่า 40 ปี โรคนี้สามารถหาวิธีรักษาให้ผมงอกขึ้นมาใหม่และไม่ให้หลุดร่วงไปได้โดยวิธีดังต่อไปนี้
- "ใช้สเตียรอยด์"ในการรักษาโรคหัวล้านที่เกิดจากภูมิคุ้มกันผิวหนังบกพร่อง
- "ใช้ยาปลูกผม"ในการรักษาโรคหัวล้านที่เกิดจากภูมิคุ้มกันผิวหนังบกพร่อง
- "ทำภูมิคุ้มกันบำบัด"ช่วยรักษาโรคหัวล้านที่เกิดจากภูมิคุ้มกันผิวหนังบกพร่อง
เราควรหันมาสนใจดูแลไม่ให้เกิดหัวล้านตั้งแต่วันนี้
ปัญหาหัวล้านเกิดจากสาเหตุที่หลากหลายแตกต่างกัน ถ้าหากไม่ทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้จากนั้นค่อยทำการป้องกันแก้ไขอย่างเหมาะสม ในเวลาที่รวดเร็วทันท่วงทีไม่เกิน 5 ปี หลังจากที่เกิดปัญหาหัวล้านขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาปัญหาหัวล้านได้เป็นอย่างดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน ส่วนใครที่เริ่มมีปัญหาผมร่วง ผมบางและหัวล้านเกิดขึ้น ก็สามารถทำการป้องกันและแก้ไขได้อย่างง่ายๆ ด้วยสมุนไพรดังต่อไปนี้
วิธีรักษาหัวล้านด้วยสมุนไพร
1.รักษาหัวล้านด้วยน้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าวเป็นหนึ่งในสมุนไพรตามธรรมชาติที่มีสรรพคุณในการช่วยรับมือกับปัญหาหัวล้านเกิดจากอะไรก็ตาม ด้วยการป้องกันการหลุดร่วงของเส้นผม กระตุ้นการงอกตัวของเส้นผมใหม่ ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้น้ำมันมะพร้าวช่วยในการป้องกันปัญหาหัวล้านได้อย่างสุดแสนยอดเยี่ยม ส่วนวิธีการนำมาใช้ก็แสนง่ายเพียงชโลมน้ำมันมะพร้าวให้ทั่วหนังศีรษะแล้วทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที ก่อนทำการล้างอกให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า แล้วสระผมให้สะอาดอีกครั้ง
2.รักษาหัวล้านด้วยใบฝรั่ง
ใบฝรั่งช่วยป้องกันหัวล้านได้เป็นอย่างดี ด้วยคุณสมบัติในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ช่วยลดปัญหาการหลุดร่วงให้น้อยลง และยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นผมให้มากยิ่งขึ้น สำหรับการนำมาใช้เพียงแค่นำใบฝรั่งประมาณ 1 กำมือ นำมาต้มในน้ำเดือดประมาณ 20 นาที แล้วปล่อยทิ้งเอาไว้จนกระทั่งเย็นจากนั้นนำใบมานวดให้ทั่วเส้นผมและหนังศีรษะหมักทิ้งเอาไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วล้างออกให้สะอาด
★★เซรั่มปลูกผมที่มีส่วนผสมมจากใบฝรั่งช่วยยับยั้งฮอร์โมน Androgen★★
ช่วยลดการเกิดผมบางขาดหลุดร่วงและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผมใหม่จาก เจแฮร์เซรั่ม
ภาพจาก J Hair Serum Official Thailand
3.รักษาหัวล้านด้วยขิง
ขิง เป็นสมุนไพรที่ช่วยในการรักษาปัญหาผมร่วง ผมบางและหัวล้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ สูตรการนำขิงมาใช้เพียงแค่นำขิงแก่ขนาดใหญ่มาทำการล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นนำไปตำให้ละเอียดแล้วห่อด้วยผ้าขาวบางแล้วนำมาใช้ในลักษณะของลูกประคบ จากนั้นนำไปอังไอน้ำจากน้ำเดือดประมาณ 5 นาที เพื่อให้น้ำขิงภายในเกิดการคลายตัวออกมาเล็กน้อยแล้วนำไปประคบให้ทั่วบริเวณที่เกิดปัญหาผมร่วงประมาณ 30 นาที วันละสองครั้ง เพียงเท่านี้คุณก็สามารถที่จะกลับมามีเส้นผมที่เงางาม หนาและดกดำโดนใจได้เป็นอย่างดี
ใครไม่อยากหัวล้านก่อนวัย ควรลด ละเลิก พฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ซะ!!!
"หัวล้าน" เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้บ่อย โดยเฉพาะกับผู้ชายเพราะนอกจากเรื่องของฮอร์โมนแล้ว จากพฤติกรรมในการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างโลดโผนแตกต่างจากของผู้หญิง ก็ยิ่งทำให้ผู้ชายมีโอกาสเกิดปัญหาหัวล้านก่อนวัยอันควรขึ้นมาได้อย่างมากมายเลยทีเดียว ดังนั้น ถ้าหากหนุ่มๆคนไหนไม่อยากให้ปัญหาหัวล้านก่อนวัยเกิดขึ้นมากวนใจตัวเอง ขอแนะนำให้ลดพฤติกรรมเสี่ยง 5 ประการ ที่จะทำให้ปัญหาหัวล้านมาเยือน เพื่อเป็นการป้องกันเอาไว้เสียตั้งแต่เนิ่นๆ
1.แก้ปัญหาหัวล้านด้วยการเลิกทานอาหารที่ไร้ประโยชน์
อาหารที่ไร้ประโยชน์อย่างเช่น ฟาสฟู้ด ขนมนมเนยต่างๆ ไม่ได้สร้างประโยชน์ที่ดีให้กับเส้นผมเลย ถ้าหากไม่อยากให้ปัญหาหัวล้านมาเยือน การหันมาทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทั้ง 5 หมู่ จะเป็นการช่วเสริมสร้างให้เส้นผมมีความแข็งแรง ดกดำ ลดปัญหาหัวล้านได้เป็นอย่างดี
2.แก้ปัญหาหัวล้านด้วยการเลิกด้วยการสระผมให้น้อยลง
การสระผมเป็นเรื่องดีที่จะช่วยชะล้างคราบสกปรกบนเส้นผมและหนังศีรษะออกไป แต่ถ้าหากทำการสระบ่อยมากจนเกินไป ก็จะทำให้น้ำมันตามธรรมชาติหลุดออกไปมากจนทำให้ผมแห้ง กรอบ หลุดร่วง และปัญหาหัวล้านก็จะมาเยือนในที่สุด สำหรับความถี่ในการสระผมที่เหมาะสมมากที่สุดคือวันละครั้งนั่นเอง
3.แก้ปัญหาหัวล้านด้วยการเลิกปล่อยผมให้เผชิญหน้ากับมลภาวะโดยไร้การดูแล
เส้นผมต้องเผชิญหน้ากับการทำลายจากมลภาวะที่ไม่เป็นมิตรกับเส้นผมในทุกวัน ถ้าหากปล่อยเอาไว้เส้นผมก็จะดูแลตัวเองตามธรรมชาติไม่ทัน ทำให้เกิดปัญหาผมเสีย ผมหลุดร่วง จนกระทั่งหัวล้านได้อย่างง่ายดายมากขึ้น ดังนั้น การเลือกแชมพู ครีมนวด และผลิตภัณฑ์บำรุงผมมาช่วยเติมเต็มในส่วนนี้ ก็จะเป็นการช่วยให้ผมแข็งแรงสมบูรณทมากขึ้น พร้อมกับบอกลาปัญหาหัวล้านกวนใจไปได้เลย
4.แก้ปัญหาหัวล้านด้วยการเลิกมัดผมที่แน่นจนเกินไป
การมัดผมให้เรียบร้อย หรือรวบมัดเพื่อป้องกันความรำคาญจากผมที่ยาวเป็นสิ่งที่สามารถทำได้แต่สิ่งที่จำเป็นจะต้องให้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากคือ การมัดผมที่แน่นจนเกินไปที่จะทำให้เส้มผมงอ หัก ได้ง่ายดายมากขึ่้น
5.แก้ปัญหาหัวล้านด้วยการเลิกใช้สารเคมีและความร้อนตกแต่งผม
การจัดแต่งทรงผมด้วยไดร์ เครื่องบีบผมตรง การทำสี ใช้มูส เจล หรือดัดผม สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำลายเส้นผมโดยตรงทั้งสิ้น แถมสารเคมีทั้งหมดก็จะยังคงหลงเหลืออยู่บนเส้นผมและหนังศีรษะตลอดทั้งวันทำให้ยิ่งเป็นการทำร้ายเส้นผมมากขึ้นไปอีก ดังนั้น ถ้าหากใครอยากทำการตกแต่งทรงจริงๆ ขอแนะนำให้ทำการเลือกวัสดุจัดแต่งทรงผมที่อ่อนโยนที่สุด และถ้าเป็นไปได้ก็อย่าใช้ความร้อนในการตกแต่งทรงผมจะดีกว่า...
แนะนำโรงพยาบาลรักษาหัวล้านที่เกิดจากสาเหตุต่างๆ
ถ้าหากใครกำลังมองหาเรื่องราว สาระและเคล็ดลับดีๆในการช่วยป้องกันรักษาปัญหาหัวล้านเกิดจากสาเหตุต่างๆได้อย่างตรงจุดโดนใจมากที่สุด ก็สามารถเลือก How to ที่ใช่ DIY ที่ชอบจากบทความที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้กันได้เลย
